l-eperon-de-biscarrosse.com

สมัครเล่นบาคาร่าออนไลน์ สมัครสมาชิก ทีมงานดูแลตลอด 24 ชม

จีดีเอช เปิด 4 เรื่อง! บุกตลาดเมกา

“จีดีเอช” เปิด 4 เรื่อง! บุกตลาดเมกา คาดรายได้หนังในไทยปีนี้ฟันแตะ 3 พันล้าน

จีดีเอชคาดรายได้รวมอุตสาหกรรมหนังปีนี้แตะ 3,000 ล้านบาท โตจากปี 65 ที่มีรายได้ 2,128 ล้านบาท เปิดเป้ารายได้จีดีเอชขยับขึ้นเป็น 510 ล้านบาท ทำหนัง 4 เรื่อง ซีรีส์ 1 เรื่อง เตรียมบุกตลาดอเมริกา–ยุโรป หากทำสำเร็จจะช่วยดันรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ใน 2–3 ปีข้างหน้า

น.ส.จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทจีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เปิดเผยว่า เชื่อมั่นว่ารายได้ของภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในไทยปีนี้ จะขยับขึ้นสู่ระดับ 3,000 ล้านบาทได้ จากปี 65 มีรายได้รวมที่ 2,128 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากหนังต่างประเทศ 1,700 ล้านบาท และหนังไทย 414 ล้านบาท โดยมีหนังไทยออกฉายในโรงภาพยนตร์ 40 เรื่อง แต่การฟื้นกลับมาของรายได้ยังห่างไกลจากรายได้ช่วงก่อนโควิด ปี 62 ที่มีรายได้รวม 4,600 ล้านบาท เฉพาะจีดีเอชปี 65 มีรายได้ 504 ล้านบาท โต 95% จากปี 64 แม้ธุรกิจยังฟื้นตัวจากโควิดได้ไม่เต็มที่ ขณะที่มีกำไร 58.5 ล้านบาท มาจากความสำเร็จของหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ บุพเพสันนิวาส 2 ซึ่งทำรายได้ทั่วประเทศ 392 ล้านบาท และได้รับความนิยมในต่างประเทศ เฉพาะเวียดนามขึ้นแท่นหนังทำรายได้สูงสุดตลอดกาลที่ 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (100.8 ล้านบาท) “โชคดีที่จีดีเอชไม่เคยขาดทุน แม้ช่วงโควิดจะชะงักไปบ้าง แต่มีรายได้จากการขายสิทธิ์มาช่วย โดยเฉพาะจากเน็ตฟลิกซ์ที่ซื้อหนังจีดีเอชทุกเรื่อง และมองว่าอนาคตรายได้จากการขายสิทธิ์หนังและส่วนแบ่งรายได้จากหนังที่นำไปฉายในต่างประเทศจะเติบโตมากขึ้น”

จีดีเอช เปิด 4 เรื่อง! บุกตลาดเมกา

น.ส.จินา กล่าวถึงเป้ารายได้ปี 66 ว่า ขยับขึ้นจากปี 65 มาที่ 510 ล้านบาท ภายใต้แผนเปิดหนังใหม่ 4 เรื่อง ประเดิมด้วย “เธอกับฉันกับฉัน” ช่วงต้นปี ทำรายได้ทั่วประเทศ 60 ล้านบาท แม้พลาดเป้าแต่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดต่างประเทศ ส่วนไลน์อัพที่เหลือทั้งปี มีแผนเปิดตัวหนังอีก 3 เรื่อง เริ่มจากวันที่ 6 เม.ย.นี้ “บ้านเช่า…บูชายัญ” หนังสยองขวัญจะเข้าโรง เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และชื่นชอบหนังสยองขวัญ นอกจากนี้ หนัง “บ้านเช่า… บูชายัญ” ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการนำหนังจีดีเอชบุกตลาดอเมริกาและยุโรปอย่างจริงจัง ผ่านการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์อย่าง N8 สตูดิโอ หากทำสำเร็จและนำ “บ้านเช่า…บูชายัญ” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในอเมริกาและยุโรปได้ จะผลักดันรายได้โตก้าวกระโดดแตะ 1,000 ล้านบาทได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อถามว่ามีแผนนำจีดีเอชเข้าตลาดหุ้นหรือไม่ น.ส.จินายอมรับว่ามีความคิดดังกล่าว “ปัจจุบันหนังไทยปักหมุดในอาเซียนได้หมดแล้ว ขณะที่ตลาดเอเชีย ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นไปแบบชั่วครั้งชั่วคราว โดยการแข่งขันในตลาดเอเชียเหนือค่อนข้างสูงและหนังไทยเป็นโปรดักชันที่เล็กมากเมื่อเทียบกับหนังในกลุ่มประเทศดังกล่าว เช่น หนังเกาหลีบางเรื่องวงเงินโปรดักชันระดับ 800 ล้านบาทขึ้นไป เทียบกับวงเงินลงทุนของจีดีเอช ซึ่งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 150-200 ล้านบาท”

ข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติม >>> เช็กเลย ราคาสินค้า หมู-ไก่-ไข่ไก่ ปรับตัวลดลง 3-9%

เศรษฐกิจ ราคาสินค้า

เช็กเลย ราคาสินค้า หมู-ไก่-ไข่ไก่ ปรับตัวลดลง 3-9%

พาณิชย์ติดตามราคาใกล้ชิด พบสินค้า หมู ไก่ และไข่ไก่ เฉลี่ยทั่วประเทศ ปรับตัวลดลง 3-9% ด้านสายด่วน 1569 มีร้องเข้ามา 808 เรื่อง ขณะที่ค่าไฟฟ้ารับกระทบต้นทุนสินค้า

วันที่ 10 มีนาคม 2566 ร.ต.จักรา ยอดมณี และนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้ามีผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้ามากน้อยต่างกัน รวมไปถึงการใช้พลังงานเพื่อผลิตสินค้าด้วย ดังนั้น มีผลต่อราคาไม่เหมือนกัน จึงระบุชัดเจนไม่ได้ว่ากระทบสินค้าเท่าไร แต่ก็ยอมรับว่ามีผลต่อต้นทุนการผลิต ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าจะปรับขึ้นหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล กรมไม่สามารถบอกได้ แต่การดูแลราคาสินค้า กรมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ พาณิชย์จังหวัดดูแลอย่างใกล้ชิด

เศรษฐกิจ ราคาสินค้า

ขณะที่สถานการณ์ราคาสินค้าช่วงสัปดาห์ที่ 2 (ณ 9 มี.ค. 66) ของเดือนมีนาคม 2566 เทียบกับเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าราคาขายปลีกหมู ไก่ และไข่ไก่ เฉลี่ยทั่วประเทศ ปรับตัวลดลง 3-9% เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น

หมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ย 149 บาท/กก. (ลดลง 9%) ไก่-น่องติดสะโพก ราคาเฉลี่ย 70 บาท/กก. (ลดลง 3%) น่องไก่ ราคาเฉลี่ย 72 บาท/กก. (ลดลง 4%) สะโพกไก่ ราคาเฉลี่ย 76 บาท/กก. (ลดลง 4%)
อกไก่ (ติดหนัง) ราคาเฉลี่ย 76 บาท/กก. (ลดลง 5%) และไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ย 3.59 บาท/ฟอง (ลดลง 7%)

ทั้งนี้ ราคาสินค้าที่จำหน่ายในห้างและตลาดสดในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันตามช่องทางการขาย ค่าขนส่ง และการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย สำหรับห้างที่จำหน่ายราคาถูกที่สุดในช่วงนี้ (9 มี.ค. 66) เช่น หมูเนื้อแดง ราคาถูกสุดที่ 117 บาท/กก. จำหน่ายที่ห้างแม็คโคร ไก่น่องติดสะโพก ราคาถูกที่สุด 55 บาท/กก. น่องไก่ ราคาถูกที่สุด 57 บาท สะโพกไก่ ราคาถูกที่สุด 67 บาท/กก. จำหน่ายที่ห้างแม็คโคร

ส่วนอกไก่ (ติดหนัง) ราคาถูกที่สุด 65 บาท/กก. จำหน่ายที่ห้างแม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี สำหรับไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาถูกที่สุด 3.30 บาท/ฟอง จำหน่ายที่ห้างแม็คโคร

ส่วนในตลาดสด ตลาดที่ขายหมูเนื้อแดงถูกสุดในประเทศ อยู่ที่ตลาดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย 130 บาท/กก. ถูกที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 140 บาท/กก. เช่น ตลาดฐานเพชรนนท์ ตลาดเงินวิจิตร ตลาดหลังห้างวันเดอร์ ตลาดหทัยมิตร ไก่-น่องติดสะโพก ถูกที่สุดในประเทศอยู่ที่ตลาดสดเทศบาล 1 จ.เชียงราย 56 บาท ถูกที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 65 บาท/กก.

เช่น ตลาดฐานเพชรนนท์ ตลาดหลังห้างวันเดอร์ ตลาดทุ่งครุพลาซ่า และไข่ไก่ เบอร์ 3 ถูกที่สุดในประเทศอยู่ที่ตลาดตระกูลสุข จ.สระแก้ว และตลาดเทศวิวัฒน์ จ.ปัตตานี 3.0 บาท ถูกที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3.50 บาท/ฟอง เช่น ตลาดใหม่สำโรง ตลาดลาดพร้าว 123 ตลาดหทัยมิตร และตลาดพรานนก

ข่าวเศรษฐกิจแนะนำ : OECD ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้กระเตื้องขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงเงินเฟ้อ

เศรษฐกิจ

OECD ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้กระเตื้องขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงเงินเฟ้อ

OECD ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้กระเตื้องขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงเงินเฟ้อ

นายแมทีอัส คอร์แมนน์ เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปีนี้ “สดใสขึ้นเล็กน้อย” แต่ปัญหาด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่

“แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในช่วงต้นปี 2566 สดใสขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับที่เราเคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อช่วง 2 – 3 เดือนก่อน” นายคอร์แมนน์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Street Signs Asia” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี

“ปัจจุบันราคาพลังงานและอาหารลดลงอย่างชัดเจน หลังจากแตะระดับสูงสุดไปก่อนหน้านี้”

เศรษฐกิจ

นายคอร์แมนน์กล่าวว่า ราคาพลังงานลดลงอย่างชัดเจน เพราะยุโรปประสบความสำเร็จในการสร้างความหลากหลายด้านแหล่งพลังงาน ขณะเดียวกัน ฤดูหนาวที่ไม่ทารุณนักได้ช่วยลดอุปสงค์พลังงาน ซึ่งทำให้ก๊าซมีราคาถูก

อย่างไรก็ตาม นายคอร์แมนน์เตือนว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ โดยจำเป็นต้องควบคุมให้ดี

“เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงก็จริง แต่เรายังไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้แบบอยู่หมัด โดยยังมีงานที่ต้องทำอีกมากเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และงานเหล่านี้มาพร้อมกับความเสี่ยง ทั้งหมดนี้คือความเสี่ยงที่จำเป็นต้องควบคุมดูแลให้ดีตลอดหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า”

แนะนำข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติม : เจาะขุมทรัพย์ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เจ้าของเทวีมิสแกรนด์ ที่ไม่ได้มีแค่ธุรกิจนางงาม

เศรษฐกิจ.jpg2

เจาะขุมทรัพย์ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เจ้าของเทวีมิสแกรนด์ ที่ไม่ได้มีแค่ธุรกิจนางงาม

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล มีขุมทรัพย์ธุรกิจพรึ่บ! แถมกวาดรายได้-กำไร งามๆ มาหลายปีซ้อน

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรมากความสามารถ เจ้าของเวทีการประกวดนางงาม “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล” ซึ่งกว่ามาถึงจุดนี้ได้ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ โดยเมื่อสมัยเรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษา ณวัฒน์ ได้ตระเวนออกรางการเกมโชว์หลายรายการ จนได้รับรางวัลมากมายถึงขั้นส่งตนเองเรียนจนจบ จากนั้นก็เริ่มต้นมีประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศ จากการได้รับรางวัล ต่อมาได้เป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ควบคู่ไปกับการเรียนในระดับชั้นปริญญาตรี ก่อนเปลี่ยนผันตัวเองไปเป็นมัคคุเทศก์ ตระเวนเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก และได้เปิดบริษัทนำเที่ยวเป็นของตนเอง ก่อนชีวิตจะเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อถูกชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง โดยผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีในยุคแรก

นอกจากนี้ ณวัฒน์ ได้เริ่มต้นผลิตรายการโทรทัศน์หลายประเภท ทั้งรายการดาวค้างฟ้า ,เปิดเมืองแปลก หรือคุยแหกโค้ง ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมงานกับ บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในตำแหน่งพิธีกรผู้ประกาศซ และ Executive Producer ทำให้มีผลงานกับทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จากการเป็นพิธีกรผู้ประกาศข่าว รายการ ก๊วนข่าวเช้าวันหยุด , รายการทูไนท์โชว์ และรายการครัวคุณต๋อย

ณวัฒน์ ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ และ ทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2550-2555 ขณะเดียวกันก็ยังมีผลงานรายการโทรทัศน์ผ่านสถานีโทรทัศน์อื่นๆ ควบคู่ไปด้วย และเมื่อปี 2555 ได้หมดสัญญาการเป็นผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ จึงได้ติดต่อ ทาง MUO เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ แต่ทาง MUO ปฏิเสธที่จะขายลิขสิทธิ์ จึงผันตัวเองมาตั้งเวทีการประกวดสาวงามในปี 2556 โดยใช้ชื่อว่า “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” (Miss Grand Thailand) โดยร่วมกับทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แพร่ภาพออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

นอกจากนั้นยังเป็นประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดสาวงามระดับนานาชาติ โดยใช้ชื่อว่า “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล” ซึ่งถือเป็นเวทีระดับนานาชาติเวทีแรกของโลกที่มีจุดกำเนิดและก่อตั้ง จนตอนหลังได้ไปประกวดที่ช่องวัน 31

ซึ่งนอกจาก ณวัฒน์ มีเวทีการประกวดสาวงามแล้ว เข้ายังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนอีกเพียบ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบมีรายชื่อนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ปรากฎนั่งเป็นกรรมการบริษัทหลายแห่งดังนี้

เศรษฐกิจ.jpg2

บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2539 โดยมีรายชื่อนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ให้บริการนำเที่ยว ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

ปี 2560 รายได้ 172,783.52 บาท ขาดทุน 170,098.63 บาท

ปี 2561 รายได้ 2,620,193.40 บาท กำไร 611,797.08 บาท

ปี 2562 รายได้ 209,259.66 บาท ขาดทุน 1,751,489.75 บาท

ปี 2563 รายได้ 80,491.97 บาท ขาดทุน 68,211.10 บาท

ปี 2564 รายได้ 50.80 บาท ขาดทุน 23,351.59 บาท

บริษัท ฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2545 โดยมีรายชื่อนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

ปี 2560 รายได้ 32,722,048.75 บาท กำไร 608,373.01 บาท

ปี 2561 รายได้ 30,645,601.89 บาท ขาดทุน 4,839,915.75 บาท

ปี 2562 รายได้ 22,226,415.05 บาท ขาดทุน 171,628.99 บาท

ปี 2563 รายได้ 27,741,369.11 บาท ขาดทุน 2,924,202.75 บาท

ปี 2564 รายได้ 245,074.45 บาท ขาดทุน 89,971.81 บาท

บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2556 โดยมีรายชื่อนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจขายสินค้าส่งและขายปลีก ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและผลิตภัณฑ์อาหาร ทุนจดทะเบียน 75 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานะนิติบุคคลเป็นแปรสภาพเป็นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2565 โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

ปี 2560 รายได้ 19,082,927.19 บาท กำไร 2,768,476.67 บาท

ปี 2561 รายได้ 33,254,268.45 บาท กำไร 1,128,431.44 บาท

ปี 2562 รายได้ 131,433,313.38 บาท กำไร 7,718,416.49 บาท

ปี 2563 รายได้ 341,671,848.38 บาท กำไร 44,295,689.23 บาท

ปี 2564 รายได้ 345,095,122.00 บาท กำไร 29,005,574.00 บาท

นอกจากนี้ ยังพบว่านายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ยังเคยมีบริษัท กาแฟนม จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2544 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอาง ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานะนิติบุคคลเป็นเสร็จการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2551

อ่านข่าวเพิ่มเติม : เปิด “ปฏิญญาเอเปก 2022” ไทยฉวยจังหวะเจรจาทวิภาคีเชื่อมเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจ

เปิด “ปฏิญญาเอเปก 2022” ไทยฉวยจังหวะเจรจาทวิภาคีเชื่อมเศรษฐกิจ

เปิด “ปฏิญญาเอเปก 2022” ไทยฉวยจังหวะเจรจาทวิภาคีเชื่อมเศรษฐกิจ

ทันทีที่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 ปิดฉากลง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมผู้นำเอเปก ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนทั่วโลก ว่าการประชุมครั้งนี้ จบลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม

ถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของสมาชิกเอเปกทั้งหมดที่ต้องการเห็นเอเปกยืนหยัดทำงานท่ามกลางสภาวการณ์โลกที่ผันผวน เพื่อสร้างการเจริญเติบโตและอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยได้ต้อนรับคณะผู้นำพร้อมคู่สมรสแขกพิเศษผู้เข้าร่วมประชุมและสื่อต่างชาติ รวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกได้เดินทางมาประชุมร่วมกันแบบพบหน้า

ในการประชุมครั้งนี้ผู้นำเอเปก ยังได้หารือกับแขกพิเศษ ได้แก่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดี อาระเบีย อีกทั้งยังได้พูดคุยกับภาคเอกชนจากสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และรับฟังมุมมองจากผู้แทนเยาวชนจาก APEC Voices of the Future 2022 ด้วย

เศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมได้มีการกล่าวถึงเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วว่า ทุกประเทศมีความเป็นห่วงในประเด็นนี้

ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ที่ทำให้ประเทศไทย ได้หน้าได้ตาจากการเป็นเจ้าภาพ คือ ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ได้รับรองปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ค.ศ.2022 สะท้อนการทำงานของเอเปก 2022 ตลอดทั้งปี ที่มีแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 3 ประการ ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”

ประการแรก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์” เอเปกได้จัดทำแผนงานต่อเนื่องหลายปี เพื่อสานต่อการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอฟแทป ในบริบทของโลกยุคหลังโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ๆ ประการที่สอง “เชื่อมโยงกัน” เอเปกได้ฟื้นฟูการเดินทางข้ามแดนอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ เพื่อให้พร้อมรับมือวิกฤติใหม่ในอนาคต ประการสุดท้าย “สู่สมดุล” ผู้นำเอเปกได้ร่วมกันรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” เพื่อวางรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างครอบคลุม ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ

การเป็นเจ้าภาพเอเปกปี 2565 ของไทยได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ไทยได้ส่งมอบหน้าที่นี้แก่สหรัฐฯ เจ้าภาพเอเปกในปี 2566 ต่อไป ในโอกาสนี้ “ทีมเศรษฐกิจ” จึงขอเปิดเนื้อหาของปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก 2022

แนะนำข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติม : ธปท.เกาะติดเศรษฐกิจโลกชะลอ

ธปท.เกาะติดเศรษฐกิจโลกชะลอ

ธปท.เกาะติดเศรษฐกิจโลกชะลอ หวังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติดันเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้น

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จากการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยและการส่งออกขยายตัวลดลง โดยเครื่องชี้การอุปโภคและบริโภคภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.9% สอดคล้องกับเครื่องชี้ด้านการผลิตที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.4%

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ส่งผลต่อภาคการส่งออก โดยในเดือน ส.ค.การส่งออกขยายตัวลดลง 3.9% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งเดือน ส.ค.และ ก.ย. โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศประมาณ 4.4 ล้านคน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยท่องเที่ยวลดลงจากช่วงก่อนหน้า จากภาวะหน้าฝน

วิเคราะห์-ข่าวเศรษฐกิจ

“จากการประเมินภาพในเดือน ก.ย.คาดว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวโดยมองว่า ครึ่งปีหลังของปีนี้เศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงจากการปรับขึ้นของต้นทุน ค่าจ้าง และราคาสินค้าในระยะต่อไปที่จะมีผลต่อค่าครองชีพ การชะลอตัวของการใช้จ่ายและเศรษฐกิจในต่างประเทศที่จะมีผลต่อการส่งออก รวมทั้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่ได้มีผลแค่การระบาดในประเทศ แต่อาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมาจากการระบาดในต่างประเทศด้วย”

ทั้งนี้ น.ส.ชญาวดีกล่าวต่อว่า จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ธปท.ได้ติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ต่อค่าครองชีพ และภาระการผ่อนส่งหนี้ของประชาชนในภาพรวม และได้มีการออกมาตรการเพื่อเร่งรัดให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยลดภาระการจ่ายหนี้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญซึ่งเป็นภารกิจของ ธปท.คือ การดูแลอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการพุ่งขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพของทุกคนมากกว่านี้.